“ความจน” เป็นสิ่งมีค่า เพราะทำให้เราไม่กลัวงานหนัก
หาความรู้ด้วยการตั้ง “คำถาม”
“ความสำเร็จ” เป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตอยู่ที่ประสบการณ์ “ความล้มเหลว”
“ปัญหา” ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น
ถ้าจะสู้ได้ เราต้องไม่สู้ในสมรภูมิที่ไม่เชี่ยวชาญ“เรียนน้อย” จะประสบความสำเร็จได้ ต้องทำงานหนักกว่าคนอื่น
ไม่เกี่ยงงาน ไม่รองานเข้ามาหา แต่ต้องวิ่งเข้าหางาน
ยอมเป็น “ถังขยะ” เพราะในถังขยะเต็มไปด้วยความลับและความรู้ที่หาที่อื่นไม่ได้
การทำงานต้องทำ “เต็มที่” และต้องสร้างสมจนเคยชินเป็นนิสัย ถ้าไม่เต็มที่ตอนที่เป็นลูกจ้าง วันที่เป็นนายจ้าง ก็จะไม่อาจรู้ได้ว่าการทำงานเต็มที่เป็นอย่างไรสิ่งใดที่มนุษย์ทำได้ ผมต้องทำได้
คนที่เก่งกว่าไม่ได้หมายความว่าจะชนะเสมอไป ความมุ่งมั่นและเอาจริงบางทีก็เอาชนะความเก่งได้
ผมทิ้งการเรียนมาเพื่อประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ล้มเหลว
แม้ท้องจะอิ่ม แต่ใจนั้นยังหิวกระหาย มันยังมี “ความฝัน” บางอย่างที่ยังไม่ได้ทำ
ถาม …ถาม และ ถาม
อย่าอายทำกิน
หลักการทำธุรกิจนั้น ถ้าสามารถเอาชนะใจลูกค้าได้ บางที “ราคา” ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ”
โลกนี้ไม่มีอะไรยากเกินเรียนรู้
มนุษย์เราได้ “ประสบการณ์” มาจาก 3 ทาง
ทางแรกคือ อ่านหนังสือ
ทางที่สองคือ ฟังคำบอกเล่าจากคนอื่น
และทางที่สามคือ ลงมือทำเอง
ถ้าเพียงแค่พูด เขาอาจจะฟัง
แต่ถ้าคุณลงมือทำ เขาจะเชื่อ
ในชีวิตของคนเรา “ความมุ่งมั่น” เป็นเรื่องสำคัญ
ถ้าเราคิดเสมอว่า “เราทำได้” พยายามกับทุกเรื่องให้ถึงที่สุดไม่ยอมแพ้ต่ออะไรง่าย ๆ แม้แต่เรื่องเล็ก ๆ โอกาสที่ “ความสำเร็จ” จะเป็นของเราก็มีอยู่สูงยิ่ง
“ความมุ่งมั่น” ไม่ใช่คำพูด แต่เป็นการลงมือทำไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ และไม่มีอะไรเป็นไปอย่างที่เราคิด
เมื่อไหร่ที่รู้ว่าไม่ใช่ อย่าดันทุรังเป็นอันขาด
คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกทำธุรกิจได้“โชค” คือการบรรจบกันระหว่าง “โอกาส” และ “ความพร้อม”
“ต้นทุน” ที่เกิดขึ้นจาก “เวลา” อาจถึงขั้นทำให้ธุรกิจขาดสภาพคล่องและไปไม่รอด
กลยุทธ์ “สไปเดอร์ มาร์เก็ตติ้ง” คือการใช้เครือข่ายธุรกิจที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ให้ธุรกิจเก่าอุ้มธุรกิจใหม่ที่เกิดขึ้น เชื่อมต่อเครือข่ายเป็นโยงใยเหมือน “ใยแมงมุม”
ช่วงเวลาที่เราคิดว่ากำลังจะตาย นอกจากคนที่เรารัก เราจะตระหนักรู้ว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาเรายังไม่ได้ทำอะไรอีกมากมาย
ในสายตาคนทั่วไป “ความล้มเหลว” ไม่น่าสนใจเท่ากับ “ความสำเร็จ”
ยอมรับความล้มเหลวได้แต่ไม่ยอมแพ้ และถึงจะไม่ยอมแพ้แต่ต้องไม่ดันทุรัง“ความสำเร็จ” และ “ความล้มเหลว” มีคุณค่าที่เหมือนกันอยู่ข้อหนึ่ง คือให้ประสบการณ์แก่ชีวิตถ้าเรามัวแต่คิด ไม่ยอมลงมือทำ แม้แต่ประสบการณ์ความล้มเหลวก็ยังไม่มีเลย
ใครจะได้คุณค่าจากประสบการณ์มากน้อยกว่ากัน อยู่ที่ว่าใครจะสรุปบทเรียนได้ดีกว่ากัน
ยิ่งทำงานมาก ยิ่งได้ประสบการณ์มากชีวิตของคนเราเปรียบเสมือนกับการเดินทาง “ปัญหา” เปรียบเสมือน “ภูเขา”
ผ่านภูเขาเทือกนี้ไป ก็ต้องเจอภูเขาเทือกใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม
แต่ทุกครั้งที่เดินขึ้นและลงภูเขา หรือทุกครั้งที่เผชิญกับปัญหาชีวิตของเราจะแกร่งขึ้น มีประสบการณ์มากขึ้น
และเมื่อถึงเวลาหนึ่ง “ประสบการณ์” ที่สั่งสมมาโดยตลอดก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้
ชีวิตนี้ไม่มีทางตัน ถ้าเรามี “ความหวัง” และไม่กลัว “ปัญหา”
ปัญหาแก้ไขได้ …ทุกอย่างเรียนรู้ได้เพียงแค่เราไม่กลัว และศึกษาสิ่งที่เราไม่รู้อย่างละเอียด
ในโลกนี้ก็ไม่มีอะไรยากเกินกว่าที่สมองของเราจะเรียนรู้ได้
คนที่เคย “ได้รับ” เท่านั้นจึงรู้คุณค่าของ “การให้”
************************
Source: ชีวิตนี้ไม่มีทางตัน โดย ตัน ภาสกรนที
หาความรู้ด้วยการตั้ง “คำถาม”
“ความสำเร็จ” เป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตอยู่ที่ประสบการณ์ “ความล้มเหลว”
“ปัญหา” ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น
ถ้าจะสู้ได้ เราต้องไม่สู้ในสมรภูมิที่ไม่เชี่ยวชาญ“เรียนน้อย” จะประสบความสำเร็จได้ ต้องทำงานหนักกว่าคนอื่น
ไม่เกี่ยงงาน ไม่รองานเข้ามาหา แต่ต้องวิ่งเข้าหางาน
ยอมเป็น “ถังขยะ” เพราะในถังขยะเต็มไปด้วยความลับและความรู้ที่หาที่อื่นไม่ได้
การทำงานต้องทำ “เต็มที่” และต้องสร้างสมจนเคยชินเป็นนิสัย ถ้าไม่เต็มที่ตอนที่เป็นลูกจ้าง วันที่เป็นนายจ้าง ก็จะไม่อาจรู้ได้ว่าการทำงานเต็มที่เป็นอย่างไรสิ่งใดที่มนุษย์ทำได้ ผมต้องทำได้
คนที่เก่งกว่าไม่ได้หมายความว่าจะชนะเสมอไป ความมุ่งมั่นและเอาจริงบางทีก็เอาชนะความเก่งได้
ผมทิ้งการเรียนมาเพื่อประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ล้มเหลว
แม้ท้องจะอิ่ม แต่ใจนั้นยังหิวกระหาย มันยังมี “ความฝัน” บางอย่างที่ยังไม่ได้ทำ
ถาม …ถาม และ ถาม
อย่าอายทำกิน
หลักการทำธุรกิจนั้น ถ้าสามารถเอาชนะใจลูกค้าได้ บางที “ราคา” ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ”
โลกนี้ไม่มีอะไรยากเกินเรียนรู้
มนุษย์เราได้ “ประสบการณ์” มาจาก 3 ทาง
ทางแรกคือ อ่านหนังสือ
ทางที่สองคือ ฟังคำบอกเล่าจากคนอื่น
และทางที่สามคือ ลงมือทำเอง
ถ้าเพียงแค่พูด เขาอาจจะฟัง
แต่ถ้าคุณลงมือทำ เขาจะเชื่อ
ในชีวิตของคนเรา “ความมุ่งมั่น” เป็นเรื่องสำคัญ
ถ้าเราคิดเสมอว่า “เราทำได้” พยายามกับทุกเรื่องให้ถึงที่สุดไม่ยอมแพ้ต่ออะไรง่าย ๆ แม้แต่เรื่องเล็ก ๆ โอกาสที่ “ความสำเร็จ” จะเป็นของเราก็มีอยู่สูงยิ่ง
“ความมุ่งมั่น” ไม่ใช่คำพูด แต่เป็นการลงมือทำไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ และไม่มีอะไรเป็นไปอย่างที่เราคิด
เมื่อไหร่ที่รู้ว่าไม่ใช่ อย่าดันทุรังเป็นอันขาด
คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกทำธุรกิจได้“โชค” คือการบรรจบกันระหว่าง “โอกาส” และ “ความพร้อม”
“ต้นทุน” ที่เกิดขึ้นจาก “เวลา” อาจถึงขั้นทำให้ธุรกิจขาดสภาพคล่องและไปไม่รอด
กลยุทธ์ “สไปเดอร์ มาร์เก็ตติ้ง” คือการใช้เครือข่ายธุรกิจที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ให้ธุรกิจเก่าอุ้มธุรกิจใหม่ที่เกิดขึ้น เชื่อมต่อเครือข่ายเป็นโยงใยเหมือน “ใยแมงมุม”
ช่วงเวลาที่เราคิดว่ากำลังจะตาย นอกจากคนที่เรารัก เราจะตระหนักรู้ว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาเรายังไม่ได้ทำอะไรอีกมากมาย
ในสายตาคนทั่วไป “ความล้มเหลว” ไม่น่าสนใจเท่ากับ “ความสำเร็จ”
ยอมรับความล้มเหลวได้แต่ไม่ยอมแพ้ และถึงจะไม่ยอมแพ้แต่ต้องไม่ดันทุรัง“ความสำเร็จ” และ “ความล้มเหลว” มีคุณค่าที่เหมือนกันอยู่ข้อหนึ่ง คือให้ประสบการณ์แก่ชีวิตถ้าเรามัวแต่คิด ไม่ยอมลงมือทำ แม้แต่ประสบการณ์ความล้มเหลวก็ยังไม่มีเลย
ใครจะได้คุณค่าจากประสบการณ์มากน้อยกว่ากัน อยู่ที่ว่าใครจะสรุปบทเรียนได้ดีกว่ากัน
ยิ่งทำงานมาก ยิ่งได้ประสบการณ์มากชีวิตของคนเราเปรียบเสมือนกับการเดินทาง “ปัญหา” เปรียบเสมือน “ภูเขา”
ผ่านภูเขาเทือกนี้ไป ก็ต้องเจอภูเขาเทือกใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม
แต่ทุกครั้งที่เดินขึ้นและลงภูเขา หรือทุกครั้งที่เผชิญกับปัญหาชีวิตของเราจะแกร่งขึ้น มีประสบการณ์มากขึ้น
และเมื่อถึงเวลาหนึ่ง “ประสบการณ์” ที่สั่งสมมาโดยตลอดก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้
ชีวิตนี้ไม่มีทางตัน ถ้าเรามี “ความหวัง” และไม่กลัว “ปัญหา”
ปัญหาแก้ไขได้ …ทุกอย่างเรียนรู้ได้เพียงแค่เราไม่กลัว และศึกษาสิ่งที่เราไม่รู้อย่างละเอียด
ในโลกนี้ก็ไม่มีอะไรยากเกินกว่าที่สมองของเราจะเรียนรู้ได้
คนที่เคย “ได้รับ” เท่านั้นจึงรู้คุณค่าของ “การให้”
************************
Source: ชีวิตนี้ไม่มีทางตัน โดย ตัน ภาสกรนที
No comments:
Post a Comment