Friday, February 3, 2012

ประสบการณ์ Ph.D. Student ตอน 1


ไม่เคยเขียนหรือเล่าเรื่อง ประสบการณ์การเรียนมาก่อน เอาละในเมื่อไม่เคยก็ลองเขียนดูคร้าบ การเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย เรียกได้ว่าหนักพอควรแต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี พร้อมกับการเปิดโลกทัศน์น้อยๆของเราให้มากขึ้น ทั้งจากประสบการณ์ของ  Prof. เราและก็เพื่อนเรียน Ph.D. ด้วยกัน

ไม่แน่ใจว่าจะเขียนทั้งหมดกี่ตอน แต่ก็นี่มันคือการถ่ายทอดประสบการณ์ของเราเองนี่ ..พร้อมกับมาเก็บไว้ใน blog นี้จะเขียนกี่ตอนเดี๋ยวก็แล้วแต่ความขี้เกียจของเรา :)

ไม่บ่อยนักคร้าบเท่าที่ผมรู้มาสำหรับการทำงานประจำพร้อมกับการเรียน Ph.D. program เท่าที่รู้มาก็มีทุกแนวคร้าบ  ปลายทาง ไม่ว่าจะ สำเร็จได้ด้วยดี แนวหายสาบสูญก็มี แนวถอดใจก็เยอะ ยังไม่แน่ว่าเราจะจบแนวไหน 555

เรียกได้ว่าคุ้มค่าคร้าบกับ การใช้วันลาทั้งหมดในการทำงานมาใช้ในการเรียน แต่ก็หนักเอาการอยู่ ลองนึกภาพ คนต้องทำงานด้วยตกเย็นกลับบ้านต้องทำค้นคว้าต่อ  เช้าต้องตื่นเช้ากว่าปกติมาอ่านหนังสือก่อนออกไปทำงาน เสาร์ อาทิตย์ไม่มีวันพักกะเค้าคร้าบ ไปสิงสถิตย์อยู่ตามร้านกาแฟเพื่อจะตั้งหน้าตั้งตาอ่าน อ่าน แล้วก็ อ่าน ตอนแรกก็ไม่คิดว่าตัวเองจะผ่านไปได้แต่สุดท้ายผลออกมาก็หายเหนื่อยคร้าบ 

ตลอดช่วงการเรียนและสอบและทำ papers รวมถึง present งาน สิ่งที่ทำให้ผมผ่านมาได้ผมคิดว่าเป็นเพราะ attitude ที่ถูกต้องประกอบกับคำแนะนำที่ มีประโยชน์จาก Prof.ผม เช่น "you are going to have serious problems for your study if you aim for the best and try to understand every thing you read" ผมเห็นเพื่อนๆที่เรียน หลายคนติดกับดักตัวเองในข้อนี้ ด้วยความที่ว่าต้องรู้ทุกอย่าง พยายามที่จะเข้าใจ ทุกเรื่องที่เราเรียนรู้ แต่สิ่งสำคัญผมคิดว่าคือการ bridge ความรู้นั้นรวมถึงประสบการณืต่างๆให้เข้ากับสถานการณ์จริง หลายคนมีปัญหานี้คร้าบ อาจเป็นเพราะเค้ามองลงลึกแต่ผมมันประเภทมองภาพ กว้างก่อนแล้วค่อย focus ลงไป ส่วนผมอาจจะได้เปรียบคนอื่นตรงนี้คร้าบ แต่ก็แพ้เค้าเรื่องเวลาเรียนเพราะส่วนมากจะเป็น full time student ส่วนมากประเภทใช้ทุนมาจากประเภทโน้นประเทศนี้ เห็นแล้วก็อิจฉาคร้าบว่าทำไม่เค้าสบายแบบนี้ ออกแนวเรียนแบบ สบายๆ ไม่เหมือนเราที่สวมหมวกหลายใบคร้าบ...เหนื่อยแต่ก็คุ้มค่านะ

ผ่านมาทุกด่านละเหลือแค่ paper ตัวใหญ่ตัวสุดท้ายซึ่งเป็นด่านที่หนักที่สุดคร้าบ จะต้องเจอกับการ หมดกำลังใจ ปัญหาต่างๆในการค้นคว้า อื่นๆอีกมากมาย ซึ่งคิดว่าคงต้องเจอแน่ๆแต่เรามาถึงจุดที่ใช้คำว่า  Ph.D Candidate ได้เต็มปาก มันก็ทำให้มีฮึดสู้ต่อได้เหมือนกัน สู้ไหวไม่ไหวเดี๋ยวก๊รู้คร้าบ..555          

ส่วนตัวหลักๆผมคิดว่าการเรียนปริญญาเอก คือ การเรียนรู้ปรัชญาของชีวิตไม่ว่าจะ เรียนรู้ที่ค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง, เรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับการเรียนแบบ กล้าแสดงออก กล้าคิด และ กล้าทำ, เรียนรู้ที่จะต้องรับผิดชอบต่ออนาคตตนเองและประเทศชาติ, เรียนรู้ที่คิดอย่างเป็นระบบตามหลักวิทยาศาสตร์เพื่อการค้นคว้าหาแก่นของความรู้, เรียนรู้ที่จะต่อยอดความรู้ของผู้อื่นเพื่อสร้างสรรค์ความคิดใหม่ๆ, เรียนรู้ที่จะเคารพในการเรียนรู้ของผู้อื่น, เรียนรู้ที่จะเชื่อมั่นในตัวอาจารย์ที่ปรึกษา, เรียนรู้ที่สร้างและรักษาสัมพันธภาพที่ดีกับครอบครัวของอาจารย์ที่ปรึกษา ฯลฯ และ ที่สำคัญ เรียนรู้ว่า ปริญญาเอกเป็นเรื่องที่ทุกคนไขว่คว้ามาได้ หากพร้อมที่จะ "เรียนรู้"

Kumpol: Feb 3, 2012 

No comments:

Post a Comment